นวนิยายตอนที่2
เรื่อง SAKARA : ข้ามจักรวาลมาหารัก
ตอนที่ 2 พบรักกลางดงหญ้า
หลังจากที่ออกจากห้องสมุด เสียงโทรศัทพ์ของนัยนาก็ดังขึ้น "กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง" เป็นสายเรียกเข้าของเพื่อนพริมาสายโม้ มโน เพ้อฝัน "ยัยพริมาจะมาโม้เรื่องอะไรให้ฟังนะ" นัยนาคิดอยู่ในใจเพราะรู้ดีว่าทีพริมาโทรมาต้องมีเรื่องมาโม้ให้ฟังแน่นอน นัยนาถอนหายใจยาวพร้อมกับรับโทรศัพท์
"ฮัลโหล ยัยนัยนา เธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่ ว่างไหม ฮัลโหลๆ" เสียงแจ้วๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของพริมาดังขึ้นจากโทรศัพท์
"เออ ได้ยินแล้ว ว่าไงมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีกละวันนี้" นัยนาพูดตอบกลับพริมา พร้อมกับเดินลงบันได
"คืออาหารต่างประเทศฉันหมดแล้ว พาไปบิ๊กซีหน่อยสิ" เธอทำเสียงอ้อนวอน
"ได้ๆ เดี๋ยวฉันไปหาที่หอพักนะ" นัยนาผู้ปฏิเสธใครไม่เป็นตอบรับคำชวนของพริมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
นัยนาขับรถมอเตอร์ไซต์ออกไปหาพริมาที่อยู่หอพักทางหลังศาลปู่ตา
พริมาออกมายืนรอนัยนาที่หน้าห้องพักพร้อมกับยิ้มแฉ่ง โชว์ฟันขาวเหลืองของเธอ ใบหน้ากลมๆ ตัวกลมๆ ของเธอดูมีความสุขสะดีดสะดิ้งมาก
"เธอยิ้มอะไร กินยาผิดซองหรือเปล่า" นัยนาทักพริมาพร้อมกับทำหน้าตาสงสัย
"วันนี้วันศุกร์ ฉันก็ต้องมีความสุขสิ และก็สุมากๆด้วย ปะ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง" เธอพูดพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจและก้าวขาขึ้นรถมอเตอร์ไซต์
เธอก็เล่าสาธยายเรื่องราวทั้งหมดให้นัยนาฟังตั้งแต่ตอนไปและตอนกลับเรื่องราวก็ยังไม่จบ เรื่องที่ทำให้เธอดีใจได้ขนาดนี้ก็มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นแหละ ก็คือเรื่องผู้ชายที่เขาแอบชอบมานานมาตอบแชทไลน์ของเขาเพียงแค่หนึ่งคำ แต่ถ้าเขาตอบมาเป็นประโยคคงต้องพูดเป็นเดือนแน่ๆเลย
นัยนากับพริมาก็ดูแตกต่างกันเหลือเกิน หนึ่งคนพูดน้อย อีกคนพูดเยอะ สงสัยว่าเพื่อนทุกคนจะมาเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของนัยนาในส่วนที่มันหายไป แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ยินเสียง เรื่องเล่าเพ้อฝันของยัยพริมาชีวิตนัยนาก็เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป มันคงกลายเป็นความเคยชินแล้วที่ต้องมีเรื่องเล่านิทานกล่อมนอนทุกคืนจากเพื่อนรักคนนี้
มาจากบิ๊กซีถึงหอพักเพื่อนก็ค่ำแล้ว ตะวันก็ลาลับขอบฟ้า พระจันทร์ก็ยังไม่โผล่ขึ้นมา นกกาก็บินกลับรัง และนัยนาก็ต้องหลับหอพักที่อยู่ทางหลังม.เพียงคนเดียว ผ่านถนนสายขรุขระ หลุมบ่อน้อยใหญ่ กบเขียดกระโดดข้ามทาง เสียงอึ่งอ่างร้องหวน ป่าไม้รัญจวนคร่ำครวญถึงใครกัน จิ้งหรีดร้องระหม ใจระทมเริ่มหวั่นกลัว
ผ่านลูกระนาดไป ใจเต้นรัวรู้สึกกลัว ขนลุกซู่ขึ้นทั้งตัว เมื่อได้ยินเสียงเสียงหนึ่งออกมาจากป่าไม้ข้างทาง เสียงนั้นร้องว่า
"ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย" เสียงของชายปริศนาดังขึ้นมาจากข้างทาง
นัยนารู้สึกกลัว แต่นั้นเป็นเสียงของคนที่ร้องขอความช่วยเหลือ เขาอาจจะบาดเจ็บ หรือเขาอาจจะเป็นโจรดักทำร้ายร่างกาย หรือชิงทรัพย์สิน ในขณะนั้นมีเพียงแสงไฟรถของนัยนาที่แล่นอยู่บนถนนสายนั้น เขาจึงจอดรถและเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"ช่วยด้วยครับ ช่วยผมด้วยครับ" น้ำเสียงที่สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดร้องเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ
นัยนาเดินไปตามเสียงนั้น เห็นผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่ในพงหญ้า เขาหันหน้ามาหานัยนา ทำให้เธอตกใจเพราะนัยตาของเขามีสีแดง เขามีผิวสีขาว หน้าตาหล่อเหลาดีที่เดียวยังกับเจ้าชายที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย ทำให้นัยนาตะลึงในความหล่อของเขาอยู่นานทีเดียว
"ช่วยผมด้วยครับ ผมลุกไม่ขึ้น"ชายคนนั้นพูดด้วยความเจ็บปวด
ทำให้นัยนาตื่นจากภวังค์
"ออ..อ่อ ได้ค่ะ คุณเป็นอะไรมาดหรือเปล่าคะ"นัยนาถามพร้อมกับพยุงตัวของชายคนนั้นขึ้น
นอกจากหน้าตาดีแล้วรูปร่างของเขาก็ยังดีด้วย มีซิกแพ็ค สูงยาวเข่าดี เป็นสเป็คของสาวๆหลายๆคน และอาจจะหมายถึงนัยนาด้วย
"คุณเป็นอะไรหรอคะ แล้วคุณมาอยู่ตรงนี้ได้ไง คุณพักอยู่หอไหนคะเดี๋ยวฉันไปส่ง" นัยนาถามด้วยความสงสัย
"ผม ผม ผมไม่รู้ครับ ผมจำอะไรไม่ได้เลย" เขาก้มหน้าทำท่าครุ่นคิดและส่ายหัวไปมา"
"งั้นคืนนี้ฉันจะพาเธอไปอยู่กับเพื่อนของฉันก่อนนะ พรุ่งนี้เราค่อยหาทางกลับบ้านของคุณ"นัยนาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
นัยนาพาชายปริศนากลับมาที่หอพักและพาเขาไปฝากไว้กับบอยเพื่อนชายที่อาศัยอยู่ข้างห้องของเธอ
"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูอย่างเป็นจังหวะ
"ว่าไงยะชะนี ว๊ายยยเธอพาเทวดาที่ไหนมา ผัวหรอจ้ะ"บอยร้องด้วยความตกใจและส่งสายตาหวานให้ชายหนุ่มรูปงาม
"บ้า ไม่ใช่ ฉันเจอเขาที่ข้างทาง เขาบาดเจ็บ ฉันเลยเอาเขามาฝากไว้ให้แกดูแลอะ"นัยนาพูดพร้อมกับยิ้มให้บอก
"ได้เลยจ้ะ ไม่มีปัญหา ฉันจะดูแลปรนนิบัติเขาเป็นอย่างดีเลย"บอยพูดพร้อมกับดึงแขนชายหนุ่มเข้าห้อง
"ฉันรบกวนแกด้วยนะ ฉันไปอ่านหนังสือละ" นัยนาพูดพร้อมกับเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปเข้าห้อง
"เดี๋ยววว คุณชื่ออะไรนะ" นัยนารีบวิ่งมาจับประตูไว้ก่อนที่บอยจะปิดห้องและมองตาชายหนุ่ม
"ผมชื่อซาการ่าครับ" ซาการ่าพูดพร้อมกับยิ้มให้เธอ
นัยนาพยักหน้าและยิ้มให้ พร้อมกับเดินหน้าแดงไปเข้าห้อง
ชายหนุ่มนัยตาสีแดงมาทำให้หัวใจของนัยนาเริ่มหวั่นไหวแล้วสิ หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิตที่ว่า ถึงจะอยู่ฟากฟ้าแห่งหนตำบลใด ถ้าคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกัน
ตอนที่ 2 พบรักกลางดงหญ้า
หลังจากที่ออกจากห้องสมุด เสียงโทรศัทพ์ของนัยนาก็ดังขึ้น "กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง" เป็นสายเรียกเข้าของเพื่อนพริมาสายโม้ มโน เพ้อฝัน "ยัยพริมาจะมาโม้เรื่องอะไรให้ฟังนะ" นัยนาคิดอยู่ในใจเพราะรู้ดีว่าทีพริมาโทรมาต้องมีเรื่องมาโม้ให้ฟังแน่นอน นัยนาถอนหายใจยาวพร้อมกับรับโทรศัพท์
"ฮัลโหล ยัยนัยนา เธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่ ว่างไหม ฮัลโหลๆ" เสียงแจ้วๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของพริมาดังขึ้นจากโทรศัพท์
"เออ ได้ยินแล้ว ว่าไงมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีกละวันนี้" นัยนาพูดตอบกลับพริมา พร้อมกับเดินลงบันได
"คืออาหารต่างประเทศฉันหมดแล้ว พาไปบิ๊กซีหน่อยสิ" เธอทำเสียงอ้อนวอน
"ได้ๆ เดี๋ยวฉันไปหาที่หอพักนะ" นัยนาผู้ปฏิเสธใครไม่เป็นตอบรับคำชวนของพริมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
นัยนาขับรถมอเตอร์ไซต์ออกไปหาพริมาที่อยู่หอพักทางหลังศาลปู่ตา
พริมาออกมายืนรอนัยนาที่หน้าห้องพักพร้อมกับยิ้มแฉ่ง โชว์ฟันขาวเหลืองของเธอ ใบหน้ากลมๆ ตัวกลมๆ ของเธอดูมีความสุขสะดีดสะดิ้งมาก
"เธอยิ้มอะไร กินยาผิดซองหรือเปล่า" นัยนาทักพริมาพร้อมกับทำหน้าตาสงสัย
"วันนี้วันศุกร์ ฉันก็ต้องมีความสุขสิ และก็สุมากๆด้วย ปะ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง" เธอพูดพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจและก้าวขาขึ้นรถมอเตอร์ไซต์
เธอก็เล่าสาธยายเรื่องราวทั้งหมดให้นัยนาฟังตั้งแต่ตอนไปและตอนกลับเรื่องราวก็ยังไม่จบ เรื่องที่ทำให้เธอดีใจได้ขนาดนี้ก็มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นแหละ ก็คือเรื่องผู้ชายที่เขาแอบชอบมานานมาตอบแชทไลน์ของเขาเพียงแค่หนึ่งคำ แต่ถ้าเขาตอบมาเป็นประโยคคงต้องพูดเป็นเดือนแน่ๆเลย
นัยนากับพริมาก็ดูแตกต่างกันเหลือเกิน หนึ่งคนพูดน้อย อีกคนพูดเยอะ สงสัยว่าเพื่อนทุกคนจะมาเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของนัยนาในส่วนที่มันหายไป แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ยินเสียง เรื่องเล่าเพ้อฝันของยัยพริมาชีวิตนัยนาก็เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป มันคงกลายเป็นความเคยชินแล้วที่ต้องมีเรื่องเล่านิทานกล่อมนอนทุกคืนจากเพื่อนรักคนนี้
มาจากบิ๊กซีถึงหอพักเพื่อนก็ค่ำแล้ว ตะวันก็ลาลับขอบฟ้า พระจันทร์ก็ยังไม่โผล่ขึ้นมา นกกาก็บินกลับรัง และนัยนาก็ต้องหลับหอพักที่อยู่ทางหลังม.เพียงคนเดียว ผ่านถนนสายขรุขระ หลุมบ่อน้อยใหญ่ กบเขียดกระโดดข้ามทาง เสียงอึ่งอ่างร้องหวน ป่าไม้รัญจวนคร่ำครวญถึงใครกัน จิ้งหรีดร้องระหม ใจระทมเริ่มหวั่นกลัว
ผ่านลูกระนาดไป ใจเต้นรัวรู้สึกกลัว ขนลุกซู่ขึ้นทั้งตัว เมื่อได้ยินเสียงเสียงหนึ่งออกมาจากป่าไม้ข้างทาง เสียงนั้นร้องว่า
"ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย" เสียงของชายปริศนาดังขึ้นมาจากข้างทาง
นัยนารู้สึกกลัว แต่นั้นเป็นเสียงของคนที่ร้องขอความช่วยเหลือ เขาอาจจะบาดเจ็บ หรือเขาอาจจะเป็นโจรดักทำร้ายร่างกาย หรือชิงทรัพย์สิน ในขณะนั้นมีเพียงแสงไฟรถของนัยนาที่แล่นอยู่บนถนนสายนั้น เขาจึงจอดรถและเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"ช่วยด้วยครับ ช่วยผมด้วยครับ" น้ำเสียงที่สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดร้องเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ
นัยนาเดินไปตามเสียงนั้น เห็นผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่ในพงหญ้า เขาหันหน้ามาหานัยนา ทำให้เธอตกใจเพราะนัยตาของเขามีสีแดง เขามีผิวสีขาว หน้าตาหล่อเหลาดีที่เดียวยังกับเจ้าชายที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย ทำให้นัยนาตะลึงในความหล่อของเขาอยู่นานทีเดียว
"ช่วยผมด้วยครับ ผมลุกไม่ขึ้น"ชายคนนั้นพูดด้วยความเจ็บปวด
ทำให้นัยนาตื่นจากภวังค์
"ออ..อ่อ ได้ค่ะ คุณเป็นอะไรมาดหรือเปล่าคะ"นัยนาถามพร้อมกับพยุงตัวของชายคนนั้นขึ้น
นอกจากหน้าตาดีแล้วรูปร่างของเขาก็ยังดีด้วย มีซิกแพ็ค สูงยาวเข่าดี เป็นสเป็คของสาวๆหลายๆคน และอาจจะหมายถึงนัยนาด้วย
"คุณเป็นอะไรหรอคะ แล้วคุณมาอยู่ตรงนี้ได้ไง คุณพักอยู่หอไหนคะเดี๋ยวฉันไปส่ง" นัยนาถามด้วยความสงสัย
"ผม ผม ผมไม่รู้ครับ ผมจำอะไรไม่ได้เลย" เขาก้มหน้าทำท่าครุ่นคิดและส่ายหัวไปมา"
"งั้นคืนนี้ฉันจะพาเธอไปอยู่กับเพื่อนของฉันก่อนนะ พรุ่งนี้เราค่อยหาทางกลับบ้านของคุณ"นัยนาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
นัยนาพาชายปริศนากลับมาที่หอพักและพาเขาไปฝากไว้กับบอยเพื่อนชายที่อาศัยอยู่ข้างห้องของเธอ
"ก๊อกๆๆ" เสียงเคาะประตูอย่างเป็นจังหวะ
"ว่าไงยะชะนี ว๊ายยยเธอพาเทวดาที่ไหนมา ผัวหรอจ้ะ"บอยร้องด้วยความตกใจและส่งสายตาหวานให้ชายหนุ่มรูปงาม
"บ้า ไม่ใช่ ฉันเจอเขาที่ข้างทาง เขาบาดเจ็บ ฉันเลยเอาเขามาฝากไว้ให้แกดูแลอะ"นัยนาพูดพร้อมกับยิ้มให้บอก
"ได้เลยจ้ะ ไม่มีปัญหา ฉันจะดูแลปรนนิบัติเขาเป็นอย่างดีเลย"บอยพูดพร้อมกับดึงแขนชายหนุ่มเข้าห้อง
"ฉันรบกวนแกด้วยนะ ฉันไปอ่านหนังสือละ" นัยนาพูดพร้อมกับเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปเข้าห้อง
"เดี๋ยววว คุณชื่ออะไรนะ" นัยนารีบวิ่งมาจับประตูไว้ก่อนที่บอยจะปิดห้องและมองตาชายหนุ่ม
"ผมชื่อซาการ่าครับ" ซาการ่าพูดพร้อมกับยิ้มให้เธอ
นัยนาพยักหน้าและยิ้มให้ พร้อมกับเดินหน้าแดงไปเข้าห้อง
ชายหนุ่มนัยตาสีแดงมาทำให้หัวใจของนัยนาเริ่มหวั่นไหวแล้วสิ หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิตที่ว่า ถึงจะอยู่ฟากฟ้าแห่งหนตำบลใด ถ้าคู่กันแล้วคงไม่แคล้วกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น