นวนิยาย ตอนที่4

นวนิยาย ตอนที่4
ตอน แสงแดดทำร้าย


          วันอาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์ ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ไร้เรี่ยวแรง แต่ต้องฝืนใจลุกจากเตียงนอนเพราะมีงานมากมายก่ายกองที่รออยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนบทความ แต่งนิราศ แต่งนิยาย ไม่รู้ว่าจะต้องทำงานไหนก่อนดี นึกว่าปี 4 ใกล้จะจบแล้วจะทำตัวสบายๆบ้าง ที่ไหนได้ปี 4 คงเป็นปีทีหนักมากตั้งแต่เรียนมา แต่เอาเถอะมีคนเขาบอกว่า "ความขยันหมั่นเพียรไม่เคยทำคนให้ตาย แต่จะทำให้คนก้าวไปสู่ความสำเร็จได้" นัยนาลุกขึ้นจากเตียงนอนพร้อมกับบิดตัวไปมาเพื่อให้ร่างกายตื่นตัว แล้วค่อยๆลุกไปอาบน้ำเพื่อที่จะไปทำงานกลุ่มตามที่นัดกับเพื่อน ๆ เอาไว้
           เธอมองตัวเองที่กระจกตรงหน้าพร้อมกับเอามือขึ้นลูบที่ใบหน้าของตัวเองอย่างช้าๆ และเผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน สายตา รอยยิ้มของซาการ่ามันทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว ในตอนนี้เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์นั้นอีกครั้ง "นายเป็นใครกัน" นัยนาพูดอยู่กับตัวเองพร้อมมองไปที่กระจกอย่างสงสัย
            "นัยนาเปิดประตูให้ฉันด้วยยยยย" น้ำเสียงแหลมๆของผู้ชายที่คุ้นเคยพร้อมกับเคาะประตูอย่างแรง นัยนาเดินไปเปิดประตูพร้อมพูดว่า 
              "มีอะไรเสียงดังแต่เช้าเลย" พอเปิดประตูออกนัยนาถึงกับตกใจ บอยนุ่งผ้าเช็คตัวผืนเดียวมายืนอยู่หน้าห้อง 
              "ก็ห้องฉันน้ำไม่ไหล ต้องมาพึ่งห้องเธออาบน้ำนี่แหละ นี่ฉันไปบอกเจ๊อ้อแล้วนะ แกก็ยังไม่ตื่นเลย ไม่รู้ว่าจะนอนเอาโล่หรือไง" บอยพูดอย่างไม่พอใจแบะปากไปมาแล้วทำสายตามองบนใส่เจ๊อ้อผู้เป็นเจ้าของหอพัก 
             "เอาหน่า อย่าบ่นเป็นคนแก่นักเลย เมื่อคืนแกคงจะทำการบ้านหนักไปหน่อยเลยยังไม่ตื่นมั้ง" ทั้งสองหัวเราะอย่างพอใจ "แล้วซาการ่าละ ยังไม่ตื่นหรอ" นัยนาถามขึันด้วยสีหน้าเรียบเฉย บอยยิ้มและชี้มือกระดิกนิ้วใส่นัยนาพร้อมพูดว่า "ฮั่นแหน่ ๆ คิดอะไรกับเขาหรอแม่สาวสุดฮอต" นัยนายิ้มเขินหน้าแดงพลักบอยไปอาบน้ำ
             บอยอาบน้ำเสร็จออกมาจาก้องน้ำและยิ้มให้กับสาวสวยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโน๊คบุ๊ค "เดี๋ยวฉันจะไปบอกให้ซาการ่ามาอาบน้ำนะจ๊ะ"นัยนายิ้มอย่างเขินอายพร้อมกับไล่บอย "ไปเลยนะ" บอยรีบวิ่งเมื่อเห็นนัยนาง้างมือขึ้นเหมือนจะตี นัยนาก็ได้แต่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวที่หน้าโน๊คบุ๊ค
              สักพักซาการ่าก็เดินมา "ผมขออาบน้ำหน่อยนะครับ" เขาพดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพร้อมทำสายตาอ้อนวอน "ได้สิ" นัยนาตอบรับ 
              ซาการ่าเดินไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ทางหลังห้อง นัยนานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เก็บชุดชั้นในที่ตากไว้ตั้งแต่เมื่อวาน จึงรีบลุกวิ่งไปเก็บด้วยความรีบร้อน เมื่อชะโงกหน้าออกไปหลังห้องทำให้นัยนาแทบไม่อยากเชื่อสายตากับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มที่มีผิวขาวคนเมื่อวานหายไปไหนทำไมเพียงแค่วันเดียวเขาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมผิวเขาถึงดำแห้งกร้านได้ขนาดนี้ นัยนารู้สึกสับสนมาก ซาการ่าก็ได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร
               "นัยนา ออกมาทำงานได้แล้ว" เสียงของพริมาดังขึ้นมาจากข้างนอก นัยนาเดินออกจากห้องช้าๆ เหมือนคนไม่มีแรง สายตาเหมือนคนกลัวอะไรสักอย่าง  เมื่อวิชิตเห็นก็รีบเข้าไปประคองตัวนัยนามานั้่งที่ม้อหินอ่อนหน้าระเบียงวิชิตถามขึ้นว่า 
                "เป็นอะไรหรือเปล่า ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันทำอะไรเธอ ฉันจะไปฆ่ามัน" วิชิตพูดเสียงแข็งพร้อมกับลุกจากม้าหินอ่อนไปที่ห้องนัยนา 
              นัยนาดึงแขนวิชิตไว้ "นายรู้จักซาการ่าได้ไง"นัยนาถามอย่างสงสัย  วิชิตหันไปมองที่ที่บอย นัยนามองตาม 
               "ฉันเป็นคนบอกเองแหละ" บอยพูดเบาๆ ยิ้มอย่างรู้สึกผิด
              "แล้วเธอจะทำยังไงกับซาการ่าละ พาเขาไปหาตำรวจให้ตำรวจช่วยไหม" พริมาพูดขึ้น
              "ฉันถามเขาแล้วเขาบอกว่าขออยู่ที่นี่สักพัก เดี๋ยวเขาก็คงคิดออกเอง ฉันคิดว่าเขาคงอยากอยู่กับฉันแน่ๆ คงจะติดใจความสวยของฉัน" บอยพูดพร้อมกับยิ้มอ่อนให้นัยนา และหัวเราะอย่างผู้มีชัยชนะ
              "มโน" ดวงดาวกับพริมาพูดขึ้นพร้อมกัน
               "ฉันว่าไม่ต้องส่งเขาไปให้ตำรวจแล้วละ ให้เขาอยู่ที่นี่นานๆเลยก็ได้ หรือจะให้ไปอยู่กับฉันก็ยินดีเป้นอย่างมาก" พริมาพูดเสียงอ่อนหวานเอามือทาบหน้าอกหลับตาเคลิ้มมองไปยังผู้ชายที่เดินออกมาจากห้องนัยนา ทำให้ทุกคนหันไปมองตามสายตาของพริมา
             "ไอ้ผู้ชายตาแดงเหมือนปีศาจนี้หรอที่วาหล่อนักหล่อหนา" วิชิตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย มองไปที่ซาการ่าพร้อมกับยกริมฝีปากด้านขวาและยกไหล่ ซาการ่ามองและเดินเข้าห้องของบอยไป นัยนาได้แต่นั่งนิ่ง

              ทุกคนตั้งใจทำงานเป็นอย่างมากทำให้งานเสร็จตั้งแต่เที่ยงวันจึงได้แยกย้ายกันกลับห้องไป บอยได้กับดวงดาวก็ออกไปซื้อาหารมากินเที่ยง นัยนาจึ่งได้ตัดสินใจถามในสิ่งที่คาใจกับซาการ่า นัยนาเดินเข้าไปหาซาการ่าที่ห้องบอย
              "ซาการ่านายเป็นใครกันแน่ แล้วทำไมผิวนายถึงเป็นแบบนั้นไปได้" นัยนานั่งลงที่เก้าอี้จ้องไปที่หน้าของซาการ่าเหมือนกับตำรวจกำลังไต่สวนผู้ต้องหา
             "ผม...ผมแพ้แสงแดด" ซาการ่าตอบอย่าอ่ำอึ้ง
            นัยนาไม่ใช่คนโง่ จึงไม่ปักใจเชื่อคำพูดของซาการ่า แต่นัยนาเชื่อในความรู้สึกของตนเองว่าซาการ่าเป็นคนดีไม่พิษภัยอะไร และเธอก็จะคอยดูพฤติกรรม ช่วยเหลือซาการ่าต่อไปเพราะหัวใจของเธอได้ตกเป็นของซาการ่าไปแล้ว
              
             

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภารกิจพิเศษ สรุปเนื้อหาวรรณกรรมอีสสาน เรื่องนางแตงอ่อน

นวนิยาย เรื่อง SAKARA : ข้ามจักรวาลมาหารัก ตอนที่7

บทส่งท้าย