นวนิยาย เรื่องSAKARA : ข้ามจักรวาลมาหารัก ตอนที่11

เรื่องSAKARA : ข้ามจักรวาลมาหารัก
ตอนที่11 ป่าสีเลือด



ดวงใจ  รัตติยา

        แสงนั้นมาหยุดลงที่พื้นหญ้าโล่งใกล้ต้นมะขามที่พวกเขานั่งอยู่ พอแสงดับลงก็กลายเป็นคน 2 คนหญิงชายวัยกลางคน ใส่ชุดสีเงินประกายแวววาว มองเห็นเป็นภาพสลัวๆ แล้วทั้งสองก็เดินตรงมาที่พวกเขานั่งอยู่ ผู้หญิงวัยกลางคนรีบวิ่งเข้ามาหาซาการ่าด้วยความคิดถึงพร้อมกับร้องไห้ เธอมานั่งฟุบลงที่ข้างกายซาการ่าซึ่งนั่งตรงข้ามกับนัยนา ดวงตาของเธอมีสีแดงเหมือนกับซาการ่า เธอเอาแต่เรียกหาซาการ่า ลูบคล้ำตามเนื้อตัวของลูกชายที่สิ้นลมหายใจแล้ว นี่แหละนะหัวอกคนเป็นแม่ ชายวัยกลางคนก็เดินเข้าเขามองลูกชายของเขาแล้วเบือนหน้าหนีคงเพราะไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาลูกผู้ชาย แต่น้ำตาของเขาก็ค่อยๆไหลซึมออกมาจากดวงตาสีแดงคงสุดที่จะกลั้นไว้แล้ว น้ำคาแห่งความเศร้าโศกเสียใจ ความสูญเสียครั้งใหญ่ของผู้เป็นพ่อและแม่
          พอพ่อของซาการ่ารวบรวมดึงสติกลับคืนมา เอามือขึ้เช็ดน้ำตา พร้อมกับตะโกนเสียงดังอย่าน่าเกรงขามว่า
            "ใครฆ่าลูกกู"ทุกตกใจตื่นกลัวตัวสั่นไปหมด วิชิตพยายามที่จะวิ่งหนี แต่ก็โดนพ่อของซาการ่าลากมาได้ พร้อมกับบีบคอเค้นถามความจริง
            "มึงฆ่าลูกกูทำไม" เขาบีบคอกดวิชิตให้นั่งลงกับพื้น วิชิตพยายามหาทางสู้ พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากกำมือที่บีบรัดคอเอาไว้ด้วยแรงมหาศาล วิชิตพนมมือขึ้นพร้อมกับพูดขอความเมตตา
             "ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจ อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ" เขาตัวสั่นเหงื่อออกเต็มตัวทั้งที่อากาศเย็น
              "ถ้าฉันฆ่าแกให้ตายแล้วบอกว่าไม่ได้ตั้งใจบ้างก็คงไม่เป็นไรสินะ" แม่ของซาการ่าละสายตาจากร่างไร้วิญญาณของลูกที่อยู่ตรงหน้า หันไปมองที่วิชิตด้วยสายตาที่โกรธแค้น แล้วลุกเดินไปหาวิชิต พร้อมกับชักดาบเล่มยาวที่อยู่ตรงเอวออกมา กำไว้แน่น วิชิตพยายามไหว้ขอชีวิตพร้อมกับเอาเท้าถีบพื้นหญ้าถอยหลังไปให้ได้เร็วที่สุด ในขณะนั้นทุกคนเงียบสนิทด้วยความกลัว มีเพียงเสียงร้องขอความเมตตาของวิชิตเท่านั้น ไม่นานเสียงนั้นก็ดับลง เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นแทนดังจนลั่นป่า กับสิ่งที่พวกเขาเห็นอยู่ตรงหน้าคงติดตาไปจนวันตาย แม่ของซาการ่าใช้ดาบฟันไปที่ขอของวิชิตด้วยความคมของดาบทำให้หัวของวิชิตหลุดออกจากบ่าในทันที
           แม่ของซาการ่าหันไปมองเสียงกรี๊ดนั้นด้วยแววตาที่น่ากลัว ทุกคนจึงหยุดเสียงลงทันที พ่อของซาการ่าจึงพูดต่อว่า
          "ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ลูกชายกูตายต้องตายให้หมด" น้ำเสียงแข็งกร้าวทำให้ทุกคนกลัวจนตัวหดไปหมด ได้แต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าที่จะสบตากับสองสามีภรรยาคู่นั้น
            "หนูเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเอง อย่าทำอะไรเพื่อนหนูเลย ทำหนูคนเดียวเถอะ" นัยนาพนมมือขอความเมตตาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
            "ที่แท้ก็แกนี่เอง ที่ทำให้ลูกชายของฉันไม่กลับบ้าน เพราหลงเสน่ห์มารยาของแก" แม่ของซาการ่าเดินเข้าไปลากตัวนัยนาออกมาจากกลุ่มเพื่อน ถึงจะฉุดดึงไว้แรงแค่ไหนก็ไม่อาจสู้แรงของมนุษย์ต่างดาวได้
           "ไว้ชีวิตพวกเราเถอะนะคะ พวกเราก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเหมือนกัน" บอยพนมมือขอไว้ชีวิตพร้อมกับร้องไห้น้ำตาไหลพราก
            "ลูกกูมาอยู่กับพวกมึง แต่พวกมึงก็ไม่สามารถรักษาชีวิตลูกกูไว้ได้ วันนี้พวกมึงก็รักษาชีวิตพวกมึงไว้ไม่ได้เช่นกัน" พ่อของซาการ่าชักดาบออกมาเดินเขาไปหา พวกเขาทั้งสามคนที่นั่งกองกันอยู่ใกล้กับศพซาการ่า ในป่านั้นตอนนี้มีเพียงเสียงร้องไห้ของมนุษย์ที่กำลังจะถูกฆ่า เขาง้างดาบออกไปข้างหลังฟันไปที่คอของทั้งสามคนพร้อมกันอย่าแรง เลือดกระเด็นกระจายไปทั่วพื้นหญ้า
          ท้องฟ้าตอนนี้มืดครึ้ม ซึมเศร้าไปกับเหตุการณ์ฆ่าสังหารหมู่ ตอนนี้ก็เหลือแค่นัยนาคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อนสนิทของเธอก็สิ้นใจไปแล้ว เธอได้แต่ร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายน้ำ จนหมดแรงฟุบหน้าลงกับพื้น เธอคงรู้สึกผิดมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ดึงเพื่อนรักของเธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ก็ไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ภารกิจพิเศษ สรุปเนื้อหาวรรณกรรมอีสสาน เรื่องนางแตงอ่อน

นวนิยาย เรื่อง SAKARA : ข้ามจักรวาลมาหารัก ตอนที่7

บทส่งท้าย